การพบสรรพากรเป็นส่วนหนึ่งของการให้บริการทำบัญชีหรือไม่???
เราอาจเริ่มจากคำถามง่าย ๆ ว่า "ถามใคร" หากถามผู้ว่าจ้างให้ทำบัญชีส่วนใหญ่จะเข้าใจว่าเป็นส่วนหนึ่งของการให้บริการทำบัญชีคือจ่ายเงินจ้างทำบัญชีแล้วเมื่อมีปัญหาก็ต้องไปแก้ไขให้ แต่หากผู้รับทำบัญชีแล้วส่วนใหญ่ก็จะบอกว่าไม่รวมเป็นส่วนหนึ่งของการทำบัญชี หากคิดเพียงว่าถามใครอาจไม่ได้รับคำตอบ
เราควรพิจารณาจาก ความหมายของการบัญชี ที่มาของการคิดค่าบริการบัญชีและสาเหตุของการพบเจ้าหนี้ที่ ก็จะได้รับคำตอบ
การบัญชีคือ การจดบันทึก จำแนก และสรุปผลออกมาเป็นรายงานทางการเงินเพื่อส่งให้หน่วยราชการโดยหลักมี 2 หน่วยงานคือ กรมพัฒนาธุรกิจการค้าและกรมสรรพากร หากการจดบันทึก จำแนกและสรุปผลเป็นขอบเขตของงานทำบัญชีการพบสรรพากรเมื่อมีปัญหาไม่ใช่ส่วนหนึ่งของการทำบัญชี สำนักงานบัญชีต้องคิดค่าบริการแยกต่างหากหรือเปิด Job ใหม่แยกออกจากค่าบริการการทำบัญชี
การคิดค่าบริการบัญชีนั้นส่วนใหญ่สำนักงานบัญชีจะคิดค่าบริการตามปริมาณงานที่่ทำซึ่งมาจากจำนวนเอกสารหรืออาจคิดจากเวลาที่ใช้ไปในการทำงานโดยเริ่มจากนำหลักฐานมาจำแนก จดบันทึกและสรปผลออกมาเป็นรายงานทางการเงินส่งให้ 2 หน่วยงานเป็นอันเสร็จสิ้นการทำงาน จะเห็นได้ว่าสำนักงานบัญชีไม่ได้ประเมินต้นทุนที่เกิดจากการพบสรรพากรเอาไว้ในค่าบริการบัญชี เพราะหากฝังค่าบริการพบสรรพากรเข้าไปในค่าบริการบัญชีราคาค่าบริการจะสูงกว่าสำนักงานบัญชีอื่นในท้องตลาดไม่สามารถแข่งขันได้
การพบเจ้าหน้าที่เกิดจากสาเหตุใหญ่ 2 กรณี
1. เจ้าหน้าที่ตั้งเรื่องตรวจเอง - มักเกิดจากความผิดปกติของข้อมูลทางการเงินที่นำส่งไปยังหน่วยงานที่กำกับดูแล กรณีนี้ต้องพิจารณาว่าเกิดจากสำนักงานบัญชีจัดทำข้อมูลไม่ถูกต้องหรือเกิดจากการกระทำของผู้ว่าจ้าง สาเหตุเกิดจากใครคนนั้นก็รับผิดชอบไป
2. ผู้ว่าจ้างขอคืนภาษี - กรณีนีเรียกว่าสาเหตุเกิดจากผู้ว่าจ้างต้องการเงินภาษีคืน
การพบเจ้าหน้าที่นั้นไม่ใช่มีเพียงเจ้าหน้าที่สรรพากร แต่ยังมีอีกหลายหน่่วยงานเช่น เจ้าหน้าที่ประกันสังคม เจ้าพนักงานตรวจแรงงาน เจ้าหน้าที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ตำรวจเศรษฐกิจ ฯลฯ ต้นทุนในการพบเจ้าหนี้ที่นั้นสำนักงานบัญชีต้องเตรียมเวลาและเงินในการแก้ไขปัญหาต่อหน่วยงานต่าง ๆ ซึ่งเป็นต้นทุนที่สำนักงานบัญชีไม่ได้ประเมินไว้เป็นส่วนหนึ่งในขอบเขตการให้บริการบัญชี
เงินและเวลานั้นยกตัวอย่างเช่น ค่าพาหนะ ค่าจัดทำเอกสาร เวลาในการเตริยมการ เวลาในการเดินทางไปพบ เวลาในการต่อสู้ ฯลฯ จากประสบการณ์แล้วต้นทนที่เสียค่าใช้จ่ายสูงที่สุดของสำนักงานบัญชีคือ เวลาในการเตรียมการ ซึ่งต้นทุนในส่วนนี้อาจใช้เงิน กำลังและเวลาหลายวันในการรวบรวมข้อมูลและข้อกฏหมาย แต่สรุปผลออกมาเป็นข้อมูลสรุปเพียง 1 หรือ 2 หรือ 3 หน้ากระดาษ ผู้ว่าจ้างมักเข้าใจว่าแค่นี้หรือจะเก็บเงินเป็นพัน เป็นหมื่น หรือเป็นแสน ดังนั้นก่อนจะเริ่มดำเนินการเตรียมข้อมูล สำนักงานบัญชีควรตกลงกับผู้ว่าจ้างให้ชัดเจน ว่าจะคิดค่าบริการหรือไม่ คิดอย่างไร และคิดขั้นต่ำเท่าไร เพื่อไม่ให้เกิดข้อขัดแย้งในภายหลัง