การจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนจำกัด |
|
ประเภทของห้างหุ้นส่วน ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ได้แบ่งห้างหุ้นส่วนออกเป็น 2 ประเภท คือ 1. ห้างหุ้นส่วนสามัญ 2. ห้างหุ้นส่วนจำกัด ห้างหุ้นส่วนสามัญ คือ ห้างหุ้นส่วนประเภทซึ่งมีผู้เป็นหุ้นส่วนจำพวกเดียว โดยผู้เป็นหุ้นส่วนทุกคนต้องรับผิดร่วมกันในบรรดาหนี้สินทั้งปวงของห้างหุ้นส่วนไม่จำกัดจำนวน ห้างหุ้นส่วนสามัญ จะจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลหรือไม่ก็ได้ ดังนั้นห้างหุ้นส่วนสามัญจึงแยกออกได้เป็น 2 ประเภท คือ 1. ห้างหุ้นส่วนสามัญที่มิได้จดทะเบียน ซึ่งไม่มีสภาพเป็นนิติบุคคลตามกฎหมาย 2. ห้างหุ้นส่วนสามัญจดทะเบียน ซึ่งมีสภาพเป็นนิติบุคคลตามกฎหมายและมีชื่อเรียกโดยเฉพาะว่า "ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล" โครงสร้างห้างหุ้นส่วนสามัญ 1. มีผู้เป็นหุ้นส่วนตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป 2. มีผู้เป็นหุ้นส่วนจำพวกเดียว คือ หุ้นส่วนจำพวกไม่จำกัดความรับผิดชอบ โดยผู้เป็นหุ้นส่วนทุกคนต้องรับผิดชอบร่วมกันในบรรดาหนี้สินทั้งปวง ของห้างหุ้นส่วนไม่จำกัดจำนวน 3. ผู้เป็นหุ้นส่วนทุกคนเข้าเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการได้ 4. จดทะเบียนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์หรือไม่ก็ได้ ถ้าจดทะเบียนเรียกว่า "ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล" ห้างหุ้นส่วนจำกัด คือห้างหุ้นส่วนประเภทซึ่งมีผู้เป็นหุ้นส่วน 2 จำพวก ดังนี้คือ 1. หุ้นส่วนจำพวกจำกัดความรับผิด ได้แก่ ผู้เป็นหุ้นส่วนคนเดียวหรือหลายคน ซึ่งรับผิดจำกัดเพียงจำนวนเงินที่ตนรับว่าจะลงทุนในห้างหุ้นส่วนเท่านั้น 2. หุ้นส่วนจำพวกไม่จำกัดความรับผิด ได้แก่ หุ้นส่วนคนเดียวหรือหลายคนซึ่งรับผิดในบรรดาหนี้สินทั้งปวงของห้างหุ้นส่วนโดยไม่จำกัดจำนวน โครงสร้าง ห้างหุ้นส่วนจำกัด 1. มีผู้เป็นหุ้นส่วนตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป 2. ผู้เป็นหุ้นส่วนมี 2 จำพวก คือ 2.1 หุ้นส่วนจำพวกจำกัดความรับผิดชอบ รับผิดเฉพาะจำนวนเงินที่รับว่าจะลงหุ้นใน ห้างหุ้นส่วน 2.2 หุ้นส่วนจำพวกไม่จำกัดความผิดชอบ รับผิดในบรรดาหนี้ของห้างหุ้นส่วนโดยไม่จำกัดจำนวน 3. ผู้เป็นหุ้นส่วนไม่จำกัดความรับผิดเท่านั้นเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ 4. ต้องจดทะเบียนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ การดำเนินการจัดตั้งห้างหุ้นส่วน เมื่อมีบุคคลตั้งแต่สองคนขึ้นไป ตกลงใจที่จะเข้าร่วมลงทุนประกอบกิจการเป็นห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลประเภทใดประเภทหนึ่งดังกล่าวข้างต้นแล้ว ผู้เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ ซึ่งได้รับการแต่งตั้งจากบรรดาผู้เป็นหุ้นส่วนทุกคนจะต้องเป็นผู้มีหน้าที่ดำเนินการขอจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนนั้นต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ณ สำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทที่ห้างนั้นมีสำนักงานแห่งใหญ่ตั้งอยู่ กรณีที่เป็นห้างหุ้นส่วนจำกัด กฎหมายกำหนดให้ผู้เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ จะเป็นได้เฉพาะแต่ผู้เป็นหุ้นส่วนจำพวกไม่จำกัดความรับผิดเท่านั้น การดำเนินการจดทะเบียนแก้ไขเพิ่มเติมหรือเลิกและชำระบัญชีห้างหุ้นส่วน ในกรณีที่ห้างหุ้นส่วนจดทะเบียนนั้นได้ตกลงที่จะแก้ไขเพิ่มเติมรายการใด ๆ ที่ได้จดทะเบียนไว้ เป็นอย่างอื่น หรือผู้เป็นหุ้นส่วนประสงค์จะเลิกกิจการ ก็จะต้องไปดำเนินการขอจดทะเบียนแก้ไขเพิ่มเติมรายการนั้น ๆ หรือจดทะเบียนเลิกและเสร็จการชำระบัญชี ณ สำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทที่ห้างนั้นมีสำนักงานแห่งใหญ่ตั้งอยู่ การจดทะเบียนจัดตั้งและแก้ไขเพิ่มเติมจะต้องดำเนินการตามวิธีและหลักเกณฑ์ที่กฎหมายและระเบียบของทางราชการได้กำหนดไว้ รายการจดทะเบียนที่ห้างหุ้นส่วนจะต้องจดทะเบียนแก้ไขเพิ่มเติม 1. ชื่อห้างหุ้นส่วน 2. ที่ตั้งสำนักงานแห่งใหญ่และ/หรือสำนักงานสาขา 3. วัตถุประสงค์ของห้างหุ้นส่วน 4. ผู้เป็นหุ้นส่วน 5. หุ้นส่วนผู้จัดการ 6. ข้อจำกัดอำนาจหุ้นส่วนผู้จัดการ 7. ตราสำคัญของห้างหุ้นส่วน 8. รายการอื่น ๆ ที่เห็นสมควรจะให้ประชาชนทราบ 9. ควบห้างหุ้นส่วน หน้าที่ของห้างหุ้นส่วน ห้างหุ้นส่วนจำกัด ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล ที่จดทะเบียนตามประมวลกฎหมายแพ่งและ พาณิชย์ มีหน้าที่ ต้องจัดทำงบการเงินประจำปี ยื่นต่อสำนักบริหารข้อมูลธุรกิจ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า หรือสำนักงานทะเบียนการค้าจังหวัด แล้วแต่กรณี ภายใน 5 เดือน นับแต่วันปิดรอบปีบัญชี แม้ว่าจะยังมิได้ประกอบกิจการก็ตาม มิฉะนั้นมีความผิดต้องระวางโทษ ปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท กิจการที่กฎหมายกำหนดระยะเวลาในการยื่นจดทะเบียน 1. คำขอจดทะเบียนแก้ไขเปลี่ยนแปลงหุ้นส่วนผู้จัดการ ต้องยื่นจดทะเบียนภายใน 14 วัน นับแต่วันที่ได้มีการเปลี่ยนแปลง (หุ้นส่วนผู้จัดการ เข้า - ออก) 2. คำขอจดทะเบียนเลิกห้างหุ้นส่วน ต้องยื่นขอจดทะเบียนภายใน 14 วัน นับแต่วันที่เลิกกัน 3. คำขอจดทะเบียนเปลี่ยนตัวผู้ชำระบัญชี ต้องยื่นขอจดทะเบียนภายใน 14 วัน นับแต่ วันที่ได้เปลี่ยนตัว 4. คำขอจดทะเบียนแก้ไขเพิ่มเติมอำนาจผู้ชำระบัญชี ต้องยื่นขอจดทะเบียนภายใน 14 วัน นับแต่วันที่ที่ประชุมได้มีการลงมติ หรือวันที่ที่ศาลได้มีคำพิพากษา 5. คำขอจดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชีของห้างหุ้นส่วน ต้องยื่นขอจดทะเบียนภายใน 14 วัน นับแต่วันที่ที่ประชุมได้มีการลงมติ 6. การยื่นรายงานการชำระบัญชีของห้างหุ้นส่วน ต้องยื่นทุกระยะ 3 เดือนครั้งหนึ่งนั้น ผู้ชำระบัญชีจะต้องยื่นรายงานการชำระบัญชี ภายใน 14 วัน นับแต่วันครบกำหนด 3 เดือน ประเภทการจดทะเบียน *ท่านสามารถ Download แบบพิมพ์ไปใช้ในการจดทะเบียนได้ หรือขอรับแบบพิมพ์ได้ที่สำนักงานบริการจดทะเบียนธุรกิจหรือสำนักงานพัฒนาธุรกิจการค้าจังหวัดทุกแห่ง 1. ตั้งห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล ![]() ![]() ![]() ![]() 1. แบบจองชื่อนิติบุคคล 2. แบบ สสช. 1 จำนวน 1 ฉบับ 3. สำเนาหลักฐานการรับชำระเงินลงหุ้นที่ห้างหุ้นส่วนได้ออกให้แก่ผู้เป็นหุ้นส่วน 4. กรณีมีคนต่างด้าวลงหุ้นในห้างหุ้นส่วนตั้งแต่ร้อยละ 40 แต่ไม่ถึงร้อยละ 50 ของทุนจดทะเบียน หรือมีคนต่างด้าวลงหุ้นในห้างหุ้นส่วนต่ำกว่าร้อยละ 40 ของทุนจดทะเบียนแต่คนต่างด้าวเป็นผู้มีอำนาจกระทำการแทนห้างหุ้นส่วนให้ผู้เป็นหุ้นส่วนทุกคนที่มีสัญชาติไทยส่งหลักฐานแสดงที่มาของเงินลงทุนซึ่งปรากฏจำนวนเงินสอดคล้องกับจำนวนเงินที่นำมาลงหุ้นของผู้เป็นหุ้นส่วนแต่ละคน ดังนี้ - สำเนาสมุดเงินฝากธนาคารหรือสำเนาใบแจ้งยอดบัญชีธนาคารย้อนหลัง 6 เดือน หรือ - เอกสารที่ธนาคารออกให้เพื่อรับรองหรือแสดงฐานะทางการเงินของผู้เป็นหุ้นส่วน หรือ - สำเนาหลักฐานแสดงแหล่งที่มาของเงินที่นำมาลงหุ้น 5. สำเนาบัตรประจำตัวของหุ้นส่วนผู้จัดการที่ลงลายมือชื่อในคำขอจดทะเบียน 6. สำเนาหลักฐานการเป็นผู้รับรองลายมือชื่อ (ถ้ามี) 7. หนังสือมอบอำนาจ (ถ้ามี) 2. ตั้งห้างหุ้นส่วนจำกัด ![]() ![]() ![]() ![]() 3. แก้ไขเพิ่มเติมห้างหุ้นส่วน ได้แก่ ชื่อของห้างหุ้นส่วน, ที่ตั้งสำนักงานแห่งใหญ่และ/หรือสำนักงานสาขา, ผู้เป็นหุ้นส่วน, หุ้นส่วนผู้จัดการ, ข้อจำกัดอำนาจหุ้นส่วนผู้จัดการ, ตราของห้างหุ้นส่วน,รายการอื่น ๆ ที่เห็นสมควรจะให้ประชาชนทราบ ![]() ![]() ![]() 1. แบบจองชื่อนิติบุคคล (ใช้เฉพาะกรณีแก้ไขเพิ่มเติมชื่อห้างหุ้นส่วน) 2. สำเนาหลักฐานการรับชำระเงินลงหุ้นที่ห้างหุ้นส่วนได้ออกให้แก่ผู้เป็นหุ้นส่วน (ใช้ในกรณีจดทะเบียนผู้เป็นหุ้นส่วนเข้าใหม่ / เพิ่มทุนโดยนำเงินมาลงหุ้น) 3. สัญญาหุ้นส่วนแก้ไขเพิ่มเติม (ใช้เฉพาะกรณีหุ้นส่วนผู้จัดการตามที่จดทะเบียนไว้มิได้ลง ลายมือชื่อในคำขอจดทะเบียนเนื่องจากออกจากการเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการหรือถึงแก่กรรม) 4. สำเนาใบมรณบัตร (ใช้เฉพาะกรณีหุ้นส่วนผู้จัดการถึงแก่กรรม) 5. สำเนาหลักฐานการเป็นผู้จัดการมรดก (ใช้เฉพาะกรณีหุ้นส่วนผู้จัดการถึงแก่กรรม) 6. สำเนาบัตรประจำตัวของหุ้นส่วนผู้จัดการที่ลงลายมือชื่อในคำขอจดทะเบียน 7. สำเนาหลักฐานการเป็นผู้รับรองลายมือชื่อ (ถ้ามี) 8. หนังสือมอบอำนาจ (ถ้ามี) 4. แก้ไขเพิ่มเติมวัตถุประสงค์ของห้างหุ้นส่วน ![]() ![]() ![]() ![]() 1. แบบ สสช. 1 จำนวน 1 ฉบับ 2. สำเนาบัตรประจำตัวของหุ้นส่วนผู้จัดการที่ลงลายมือชื่อในคำขอจดทะเบียน 3. สำเนาหลักฐานการเป็นผู้รับรองลายมือชื่อ (ถ้ามี) 4. หนังสือมอบอำนาจ (ถ้ามี) 5. ควบห้างหุ้นส่วน ![]() ![]() ![]() ![]() 1. แบบจองชื่อนิติบุคคล (ใช้เฉพาะกรณีตั้งชื่อห้างหุ้นส่วนขึ้นใหม่) 2. แบบ สสช. 1 จำนวน 1 ฉบับ 3. สำเนาบัตรประจำตัวของหุ้นส่วนผู้จัดการที่ลงลายมือชื่อในคำขอจดทะเบียน 4. สำเนาหลักฐานการเป็นผู้รับรองลายมือชื่อ (ถ้ามี) 5. หนังสือมอบอำนาจ (ถ้ามี) 6. แปรสภาพห้างหุ้นส่วนเป็นบริษัทจำกัด ![]() ![]() 1. แบบ บอจ.2 (ใช้เฉพาะหน้า 1 แต่ไม่ต้องกรอกรายละเอียดเกี่ยวกับผู้เริ่มก่อการ) ผนึกอากร 200 บาท 2. แบบ บอจ.3 (ใช้ทั้ง 2หน้า) ![]() 1. แบบ ก. 2. แบบ ว. ![]() 1. แบบ บอจ.5 2. แบบ สสช.1 จำนวน 1 ฉบับ 3. สำเนาบัญชีรายชื่อผู้เป็นหุ้นส่วนในการประชุมให้ความยินยอมและดำเนินการแปรสภาพพร้อมลายมือชื่อ 4. สำเนารายงานการประชุมของผู้เป็นหุ้นส่วนในการให้ความยินยอมและดำเนินการแปรสภาพ 5. สำเนาข้อบังคับ ผนึกอากร 200 บาท (ถ้ามี) 6. สำเนาหลักฐานการรับชำระค่าหุ้น – โอนกรรมสิทธิ์ทรัพย์สิน - เอกสารหลักฐานการให้ใช้สิทธิ์ต่าง ๆ (ถ้ามี) 7. หนังสือพิมพ์ที่ลงพิมพ์โฆษณาบอกกล่าวการแปรสภาพห้างหุ้นส่วนเป็นบริษัทจำกัด (ใช้เฉพาะหน้าที่มีชื่อหนังสือพิมพ์และวันที่ออกหนังสือพิมพ์) 8. สำเนาหนังสือบอกกล่าวเจ้าหนี้ (ถ้ามี) 9. สำเนาหนังสือยืนยันว่าห้างหุ้นส่วนไม่มีเจ้าหนี้หรือเจ้าหนี้ไม่คัดค้านซึ่งลงลายมือชื่อ โดยกรรมการตามอำนาจที่ขอจดทะเบียน 10. สำเนาหนังสือคัดค้านของเจ้าหนี้ (ถ้ามี) 11. สำเนาหลักฐานการชำระหนี้ – ให้ประกันหนี้เจ้าหนี้ (ถ้ามี) 12. หนังสือยืนยันการรับมอบกิจการ ทรัพย์สิน บัญชี เอกสารและหลักฐานต่าง ๆ ของห้างหุ้นส่วนที่แปรสภาพซึ่งลงลายมือชื่อโดยกรรมการตามอำนาจที่ขอจดทะเบียน 13. สำเนาหลักฐานที่ตั้งสำนักงานแห่งใหญ่ - ภาพถ่ายสำเนาทะเบียนบ้าน และ - สำเนาสัญญาเช่า (กรณีเช่า) หรือหนังสือให้ความยินยอมให้ใช้สถานที่ตั้งสำนักงานแห่งใหญ่ (กรณีเจ้าของกรรมสิทธิ์ให้ความยินยอมให้ใช้สถานที่)และสำเนาหลักฐานแสดงกรรมสิทธิ์ของผู้ให้ความยินยอม เช่น หลักฐานแสดงการเป็นเจ้าบ้าน สัญญาซื้อขาย 14. แผนที่แสดงที่ตั้งสำนักงานแห่งใหญ่และสถานที่สำคัญบริเวณใกล้เคียงโดยสังเขป พร้อมภาพถ่ายสถานที่ตั้งสำนักงาน 15. สำเนาบัตรประจำตัวของกรรมการทุกคน 16. สำเนาหลักฐานการเป็นผู้รับรองลายมือชื่อ (ถ้ามี) 17. หนังสือมอบอำนาจ (ถ้ามี) 7. เลิกห้างหุ้นส่วน ![]() ![]() ![]() ![]() 1. สำเนาคำสั่งศาลให้เลิกห้างหุ้นส่วน (ถ้ามี) 2. สำเนาสัญญาของห้างหุ้นส่วนหรือข้อตกลงของผู้เป็นหุ้นส่วนทุกคนที่ตกลงหรือให้ความยินยอมในการตั้งผู้ชำระบัญชี หรือตั้งผู้อื่นที่ไม่ใช่หุ้นส่วนผู้จัดการทุกคนเป็นผู้ชำระบัญชี (ใช้เฉพาะกรณีที่ผู้ชำระบัญชีมิใช่หุ้นส่วนผู้จัดการทุกคนตามที่จดทะเบียนไว้ก่อนเลิก) 3. สำเนาใบมรณบัตร (ใช้เฉพาะกรณีหุ้นส่วนผู้จัดการถึงแก่กรรม) 4. สำเนาบัตรประจำตัวของผู้ชำระบัญชีที่ลงลายมือชื่อในคำขอจดทะเบียน 5. สำเนาหลักฐานการเป็นผู้รับรองลายมือชื่อ (ถ้ามี) 6. หนังสือมอบอำนาจ (ถ้ามี) 8. แก้ไขเพิ่มเติมอำนาจของผู้ชำระบัญชี ที่ตั้งสำนักงานของผู้ชำระบัญชี ตั้ง/เปลี่ยนตัวผู้ชำระบัญชี ![]() ![]() ![]() ![]() 1. สำเนาคำสั่งศาลกำหนดอำนาจของผู้ชำระบัญชีและ/หรือตั้งหรือเปลี่ยนตัวผู้ชำระบัญชี (ถ้ามี) 2. สำเนาบัตรประจำตัวของผู้ชำระบัญชีที่ลงลายมือชื่อในคำขอจดทะเบียน 3. สำเนาหลักฐานการเป็นผู้รับรองลายมือชื่อ (ถ้ามี) 4. หนังสือมอบอำนาจ (ถ้ามี) 9. เสร็จการชำระบัญชีห้างหุ้นส่วน ![]() ![]() ![]() 1. แบบ ลช.3 พร้อมเอกสารประกอบ 2. แบบ ลช.6 ![]() 1. งบการเงิน ณ วันที่เลิกห้างหุ้นส่วนหรือบริษัท (จะใช้งบการเงิน ณ วันที่ผู้เป็นหุ้นส่วนตกลงให้เลิกห้าง หรืองบการเงิน ณ วันที่นายทะเบียนรับจดทะเบียนเลิกห้างหุ้นส่วนก็ได้ ) 2. แบบรับรองการตรวจสอบบัญชีของกรมสรรพากร 3. สำเนาบัตรประจำตัวของผู้ชำระบัญชีที่ลงลายมือชื่อในคำขอจดทะเบียน 4. สำเนาหลักฐานการเป็นผู้รับรองลายมือชื่อ (ถ้ามี) 5. หนังสือมอบอำนาจ (ถ้ามี) |